ปัญหาคราบน้ำ (Watermark)
เมื่อฝนตกหรือการฉีดน้ำบนผนัง
จะเกิดคราบน้ำตามแนวการไหลของน้ำบนฟิล์มสี เช็ดล้างไม่ออก
ส่วนใหญ่มักเกิดกับฟิล์มสีชนิดด้าน หรืออีกกรณีหนึ่งคือ
เป็นคราบน้ำจากการรั่วซึมภายในบ้าน เช่น ซึมบนฝ้าเพดาน เป็นต้น จัดว่าเป็นปัญหาบ้านหน้าฝนที่พบได้บ่อย
สาเหตุ
- ฟิล์มสีชนิดด้านจะมีสารปรุงแต่งประเภท Surfactant ที่หลังจากทาสีจนแห้งสนิทแล้ว สารดังกล่าวอาจจะทิ้งคราบไขไว้บนผิวหน้าของฟิล์ม
เมื่อโดนน้ำจึงเกิดเป็นคราบน้ำบนฟิล์ม
- การรั่วซึมจากจุดต่าง ๆ ของบ้าน เช่น หลังคา
ดาดฟ้า ทำให้เกิดคราบน้ำไหลลงมา หรือซึมเกิดคราบน้ำบนฝ้าเพดาน
- สีบ้านภายนอกที่เริ่มเสื่อมสภาพ
จะมีโอกาสเกาะของฝุ่นผงได้มากกว่า เมื่อฝนตกน้ำฝุ่นเหล่านั้นจะผสมกับน้ำไหลลงมาเกิดเป็นรอยน้ำบนผนัง
การวิเคราะห์ปัญหา
- กรณีเป็นผนังภายนอกให้ทดลองราดน้ำไปบนผนังที่เกิดปัญหา
แล้วรอให้ผนังแห้งเพื่อสังเกตว่าคราบน้ำเกิดบนผนังหรือไม่
หากพบว่ายังเกิดคราบน้ำอยู่แสดงว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากฟิล์มสี และจำเป็นต้องทาสีใหม่เท่านั้น
- กรณีเป็นผนังภายใน หรือฝ้าเพดาน
จำเป็นต้องหาให้เจอว่าน้ำดังกล่าวมีต้นเหตุมาจากอะไร จากการที่ฝนสาด? จากการรั่วซึม?
หรืออื่น ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแก้ไขต่อไป
แนวทางการแก้ไข
คราบน้ำภายนอกบ้าน
- ทำความสะอาดเตรียมพื้นผิวด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
แล้วทิ้งพื้นผิวให้แห้งสนิท
- กรณีพื้นผิวเดิมมีการเสื่อมสภาพ ลอกล่อน โป่งพอง
รอยแตกร้าว เชื้อราตะไคร่น้ำ และอื่น ๆ จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านั้นก่อน
- หลังจากนั้นให้ทาสีรองพื้นจำนวน 1 เที่ยว
แนะนำเป็นสีรองพื้นปูนเก่าสีขาว Duprimer หรือ
รองพื้นปูนเก่า
- ทาสีทับหน้าด้วยสีน้ำอะคริลิก
DUFLEX จำนวน 2 เที่ยว
คราบน้ำภายในบ้าน
- ดำเนินการซ่อมแซมจุดที่รั่วซึมก่อน
หากรั่วซึมที่หลังคาหรือดาดฟ้า สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทากันซึม DUROOFSEAL แก้ไขได้
- ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคราบน้ำ
หากมีเชื้อราให้ทาน้ำยากำจัดเชื้อราตะไคร่น้ำ
- ทาสีรองพื้นที่สามารถทนความชื้นได้สูง Pacolax Quick Primer หรือ Aquatec primer จำนวน 1 เที่ยว ที่ผนังหรือฝ้าเพดานที่เกิดปัญหา
- ทาทับหน้าจำนวน 2 - 3 เที่ยว ด้วยสี
DUFLEX